ระยะปลอดภัยในความสัมพันธ์ ควรเป็นเท่าไร

มีบรรยากาศฝนตก รถติดช่วยฉ๊านน ยังมีมือเปล่าว่างอยู่ให้จับเท่าน๊านน….’ วันนี้ลอยมากับเสียงเพลงกันเลยทีเดียว ก็ไม่ได้อารมณ์เปลี่ยวอะไรหรอกค่ะ พอดีเห็นว่าเพลงนี้มีชื่อเพลงสอดคล้องกับเรื่องราวที่กำลังจะนำมาฝากกัน เรื่องของระยะปลอดภัยในความสัมพันธ์นั่นเองค่ะ…แหมๆ ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันรึเปล่านะคะ เอาเป็นว่า เราจะมาว่ากันด้วยระยะห่างที่เหมาะสมระหว่างคู่รัก ที่จะทำให้ความรักของคนสองคนเบ่งบานสุกงอม แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อึดอัดจนเกินไป เพราะธรรมชาติของมนุษย์ทุกคนแล้ว ต่อให้ขี้เหงาเพียงใด ก็ยังต้องการ “ความเป็นส่วนตัว หรือช่องว่าง” ไม่มากก็น้อยค่ะ

หากจะว่ากันไป เรื่องของความเป็นส่วนตัวหรือช่องว่างในความสัมพันธ์ มักจะเป็นเรื่องที่หนุ่มๆเรียกร้องมากกว่า เพราะฉะนั้นเรามาพูดถึงความต้องการโดยทั่วไปของผู้ชายก่อนดีกว่าค่ะ

ผู้ชายต้องการช่องว่างแค่ไหนน่ะเหรอคะ? ก็บ่อยพอๆกับการชาร์จแบตเตอรี่มือถือนั่นแหละค่ะ เอาเป็นว่าถ้าเขาต้องอยู่กับคุณผู้หญิงตลอดเวลา นานเกิน 3 วันล่ะก็ เขาต้องรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว อยากจะหาเรื่องไปให้พ้นๆ (หรือให้คุณไปพ้นๆเขา!) เพื่อชาร์จแบตฯให้กับตัวเอง แล้วเรื่องแบบนี้น่ะ คุณมองด้วยตาเปล่าไม่ออกหรอก (ยังกะเชื้อจุลินทรีย์เลยนะ ฮา) เพราะเวลาที่พวกเขาต้องการตีตัวออกห่าง พวกเขาจะไม่บ่นไม่พูดออกมาเป็นเรื่องเป็นราว แต่ก็พอมีสัญญาณบางอย่างให้จับได้ เช่น เขาถามคุณว่า ‘คุณไม่ไปไหนกับเพื่อนๆบ้างเหรอ?’ หรือบางทีเขาอาจจะกลับบ้านดึกกว่าปกติ แล้วก็บอกว่า ‘ขี้เกียจกลับเร็ว’ ‘ไม่รู้จะกลับเร็วไปทำไม’ อะไรทำนองนั้น ทิ้งให้คุณฉงนงงงวยอยู่คนเดียว นั่นแหละครับ อาการ “ต้องการช่องว่าง” ระยะแรก โดยที่ตัวเขาเองก็อาจจะไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำค่ะ! แล้วถ้าอาการแบบนี้ถูกเก็บกดเอาไว้จนกลัดหนองระยะสุดท้ายแล้วล่ะก็ มันอาจจะระเบิดออกมาในรูปแบบของการแอบไปมี something wrong กับใครเอาดื้อๆก็ได้! ถึงตอนนั้นแล้วคุณจะอึ้งกิมกี่นะคะ เพราะฉะนั้น อย่ารอให้เขาเอ่ยปากก่อนเลย พวกผู้ชายส่วนใหญ่น่ะ เขาพูดไม่เก่งหรอก แต่ถ้าคุณจับอาการของเขาได้อย่างที่บอกล่ะก็ คำแนะนำของเราคือ รีบจัดหาเวลาปลีกวิเวกของตัวคุณเอง จะไปอยู่ที่ไหนก็ได้ จะไปลั๊ลลากับเพื่อนสาวก็ดี แต่ขอให้ทำโดยด่วนเลยค่ะ เพราะประเด็นก็คือ เพื่อช่วยให้เขาได้มีเวลาเป็นอิสระส่วนตัวที่อัดอั้นมานาน!

มาถึงเรื่องของคุณผู้หญิงกันบ้าง ด้วยความที่เราเองก็เป็นหญิงเหมือนกัน ย่อมเข้าใจกันเองดี ว่าต่อให้เราขี้เหงาเท่าไร การที่จะต้องมาคอยเอาใจใส่คนรักตลอดเวลา ก็ทำให้เบื่อหน่ายเอาได้ง่ายๆเหมือนกัน ดังนั้นเมื่อรู้สึกว่าความรักมั่นคงดีแล้ว ผู้หญิงเราเองก็อยากจะไปตามหาความฝันของเราเองบ้าง จริงมั้ยคะ? อาจจะไปลงคอร์สเรียนทำอาหาร หรือไปศึกษาปฏิบัติธรรม หรือแม้กระทั่งเดินทางไปต่างประเทศแบบ alone ดูสักครั้ง

ถึงตรงนี้แล้ว อยากจะเน้นย้ำว่า การออกห่างกันบ้างนั้น ไม่ได้บ่งบอกถึงความรักที่จืดจางลงแต่อย่างใดเลย หากแต่เป็นเพียงธรรมชาติด้านหนึ่งของมนุษย์เท่านั้น ก็เหมือนกับการที่เรานอนหลับนั่นแหละค่ะ เมื่อตื่นขึ้นเราก็จะสดชื่นกว่าเดิม การให้เวลาส่วนตัวแก่คนรักเป็นประจำ ก็จะคอยชาร์จพลังแห่งความรักและผูกพัน ให้โหยหากันอยู่ร่ำไปเลยค่ะ^^

credit: http://www.naddate.com/love-view.aspx?id=1072