เวลาที่คนทะเลาะกัน บ่อยครั้งเลย ที่มักจะลงเอยด้วยเหตุการณ์ ที่ต่างฝ่ายต่างโมโห เพราะอารมณ์ในตอนนั้น (หลังจากที่เพิ่งทะเลาะกันเสร็จใหม่ๆ) เป็นอารมณ์ ที่ต่างฝ่ายต่างก็คิดว่า ตัวเองไม่ได้เป็นคนผิด
แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก และต่างฝ่ายต่างอารมณ์เย็นขึ้น ฝ่ายที่ทำผิด ก็จะค่อยๆ เริ่มมองเห็นถึงความผิดของตัวเอง ว่าตัวเองทำผิด ชัดเจนขึ้น และชัดเจนขึ้น
สถานณ์การณ์ในตอนนี้ ฝ่ายที่ทำผิด มีอาการว้าวุ่นใจเล็กน้อยว่า “จะเอายังไงดีนะ” ผิดแล้วจะขอโทษดี หรือว่า ไม่ต้องทำอะไร รอให้สถานการณ์คลี่คลายได้ด้วยตัวมันเอง
เมื่อรู้ถึงความผิดของตัวเอง นั่นหมายความว่า เป็นการเดินมาถูกทางครึ่งหนึ่งแล้ว ต่อจากนี้ ก็ปล่อยใจให้ไปตามทางว่า ทำผิดก็ควรจะยอมรับผิด ทำผิดก็น่าจะรีบจัดการกับปัญหา เพียงแค่การยกหูโทรศัพท์ไปพูดคุยก่อน หรือเป็นฝ่ายเริ่มต้นขอโทษก่อน ก็นำไปสู่ การเปลี่ยนสถานการณ์ ที่แย่ๆ ให้ดีขึ้นมาได้
อารมณ์โมโห ที่ค้างคาเอาไว้ จะทำให้ทั้ง 2 ฝ่าย ถูกทำร้ายทางใจ ไปพร้อมๆ กัน เมื่อเป็นเช่นนี้ สัญชาติภายในใจเกิดขึ้นแล้วว่า เราทำผิดเองนี่ เราควรขอโทษ แต่อาจจะมีสิ่งที่เรียกว่า อีโก้ หรือความยึดมั่นในตัวเอง เข้ามารบกวนจิตใจว่า จะขอโทษไปไย ขอโทษ เป็นเหมือนการยอมให้ผู้อื่นเหนือกว่า
ช่วงเวลาที่ต้องตัดสินใจเช่นนี้ (เส้น)ทางที่ดี ก็คือ การตัดสินใจ ทำตามความรู้สึกด้านดี ให้ความรู้สึกด้านดี เป็นผู้ชนะ
ความรู้สึกด้านดี ในเรื่องนี้ ก็คือ ผิดแล้วขอโทษ ความรู้สึกอีกด้าน ที่เป็นด้านไม่ดี ในเรื่องนี้ก็คือ ขอโทษทำไม ไม่อยากเป็นเหมือนฝ่ายแพ้
การเลือกตัดสินใจ ตามความรู้สึกด้านดี ถึงแม้จะไม่ได้ชี้ชัดว่า จะได้เจอสิ่งที่ดีกว่าแน่นอน แต่สิ่งที่เกิดขึ้น จากการตัดสินใจ ตามความรู้สึกด้านดี ก็มักจะเป็นเรื่องดีเสมอ
ส่วนความรู้สึกด้านไม่ดี ถึงแม้ จะไม่ได้เป็นตัวกำหนดว่า จะนำไปสู่เรื่องไม่ดีอย่างแน่นนอน แต่ก็เป็นการปูทาง ให้เรื่องแย่ๆ เกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น
ถึงแม้ จะเป็นเรื่องเพียงเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้ แต่ก็ส่งผลเสีย หรือสร้างประโยชน์ ในทางด้านสายสัมพันธ์ระหว่างคน 2 คน ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว
credit: http://www.naddate.com/love-view.aspx?id=888
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น คุยกันสนุกๆ