ใช้มุมมอง ของ 2 ความคิด เรื่องของดอกไม้กับนายก้อนหิน
ผมรู้จักผู้หญิงคนหนึ่งด้วยความบังเอิญ แต่ผมบอกตัวเองว่าเป็นเพราะพรหมลิขิต
ผมพบเธอที่ริมบึงขนาดใหญ่หน้ามหาวิทยาลัย ขณะที่ผมกำลังไปวิ่งออกกำลังกาย
เธอกำลังง่วนอยู่กับผืนผ้าใบ และภาพอาทิตย์ลับขอบฟ้า
ผมยาวที่ถูกรวบเป็นมวยด้านหลังถูกปักด้วยพู่กันอันโตแทนปิ่นปักผม
เสื้อกล้ามตัวเล็กสีขาว สร้อยข้อมือเต็มแขนเล็กๆ
กางเกงยีนส์สีซีด และรองเท้าผ้าใบโทรมๆ
เธอคงดูเป็นผู้หญิงเรียนศิลปะที่เซอจนไม่น่าดู
หากไม่เพราะใบหน้าที่งดงามราวภาพวาดของจิตรกรเอกนั้น
เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่สวย หากไม่พิศมองอย่างดี แต่เธอก็ดูน่ารักมากในสายตาผม
ผมบอกตัวเองว่าหากผมวิ่งวนกลับมาอีกรอบแล้วเจอเธอ ผมจะเข้าไปคุยด้วย
วันนี้ จู่ๆ ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาคุยกับฉัน
เขาเรียนวิศวะ ท่าทางเป็นหนุ่มเจ้าสำอางเชียว
แต่ก็ดูท่าทางจะเป็นที่รู้จักในคณะน่าดูนะ
เพราะตอนที่ช่วยฉันหอบอุปกรณ์วาดรูปมาส่งที่รถ มีรุ่นน้องมาทักเยอะเชียว
ยิ่งรู้จัก ผมยิ่งรู้สึกว่าเธอน่ารักครับ
เธอเป็นรุ่นน้องผม 1 ปี แต่ก็ไม่เคยเรียกผมว่าพี่ซักคำ เธอบอกว่า
เรารู้จักกันในฐานะเพื่อน ไม่ใช่รุ่นพี่ รุ่นน้อง เพราะเธอขี้เกียจนอบน้อมผม
อย่างที่รุ่นน้องในคณะเป็น ก็แหม ผมเคยเป็นประธานเชียร์นี่ครับ
รุ่นน้องก็ต้องเกรงเป็นธรรมดา เธอเป็นผู้หญิงที่ใจดีมากครับ
ทุกวันเสาร์เธอจะไปสอนศิลปะให้เด็กกำพร้า และวันไหนที่ว่างก็จะไปอ่านนิทานอัดเทปให้เด็กๆ ตาบอด
ตอนนี้ผมมั่นใจแล้วครับว่าผมชอบเธอมาก แถมภูมิใจมากที่คนที่ผมชอบเป็นคนดีมากด้วย
เขาเป็นผู้ชายที่ใช้ได้ทีเดียวแหละ
อย่างน้อยก็รู้จักเทคแคร์ผู้หญิงมากกว่าเพื่อนที่คณะของฉันเยอะทีเดียว
แล้วก็เป็นคนมุ่งมั่นดี เขาตั้งใจเรียนมากเลยนะ
ไม่เคยขาดเรียนเลย เล่นเอาฉันรู้สึกผิด ที่โดดเรียนเป็นว่าเล่น
แล้วก็เป็นคนขยันทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัย ซึ่งฉันไม่คิดจะทำ
ต่างกันจริงแหะฉันกับเขา
วันนี้เธอชวนผมไปขับรถเล่นครับ
เธอบอกเธออยากไปอุทยานแห่งชาติแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยของเรานัก
แต่ก็เป็นร้อยกิโลเลยนะครับ ผมมองมอเตอร์ไซต์เก่าๆ โทรมๆ ของผมแล้ว
ก็ยากจะไปถึงครับ เธอทำหน้าขรึมแล้วยื่นกุญแจรถของเธอให้ผม
บ้านเธอรวยครับ เธอมีรถยนต์ส่วนตัวใช้ ผมรู้สึกได้ทันทีว่าเธอกำลังไม่สบายใจ
นั่งรถไปได้เดี๋ยวเดียว เธอก็ร้องไห้โฮเลยครับ ผมเลยรู้ว่าเธอขี้แยไม่เบา
เรื่องของเรื่องที่เธอกลุ้มใจก็คือ ที่บ้านเธอไม่ยอมมาเยี่ยมเธอในวันนี้ตามที่นัดไว้ครับ
เพราะน้องชายไม่สบายนิดหน่อย ผมขำไม่ออก
เพราะท่าทางเธอเสียใจกับเรื่องที่ผมเห็นเป็นสิ่งเล็กน้อยนี้มาก
จึงได้แต่เงียบ แล้วก็เล่าเรื่องของผมให้เธอฟังบ้าง
ฉันไม่กล้าฟูมฟายเลยทีเดียว เมื่อเขาเล่าเรื่องครอบครัวของเขาให้ฉันฟัง
เขาเล่าให้ฟังว่าพ่อกับแม่ของเขาเลิกกัน และเขาก็ไม่เชิงว่าใครเลี้ยง
เพราะอยู่กับพ่อบ้าง อยู่กับแม่บ้าง อยู่กับญาติบ้าง และแต่ละที่ก็ไม่ใช่ที่ของเขา
เพราะทุกคนต่างมีครอบครัวของตัวเอง อยู่ที่ไหนเขาก็เหมือนเป็นแค่คนอาศัย
ตอนนี้เขาอาศัยการได้ทุนการศึกษาและค่าใช้จ่ายที่พี่สาวส่งให้นิดหน่อยดำรงชีวิต
เพื่อก้าวไปยังเส้นทางที่สบายขึ้น ฉันทึ่งมากที่เขาเข้มแข็ง
และไม่ร้องไห้กับโชคชะตาของตนเอง ตั้งใจเรียน ไม่เกเร
ฉันโชคดีกว่าเขาเยอะมากทีเดียว สงสารเขาจังแหะ
เธอบอกผมว่า บางทีถ้าผมเสียใจ ผมควรจะร้องไห้บ้าง
เพราะถ้าไม่ร้องเสียบ้าง ความเสียใจต่างๆ
จะถูกสะสมเป็นตะกอนในหัวใจของผมเอง แล้วท้ายที่สุด
หัวใจผมจะกลายเป็นก้อนหิน แม้จะแข็งแกร่ง
และผมจะไม่มีวันเสียใจอีก แต่มันจะทำให้คนใกล้ตัวผม บอบช้ำยามโดนผมกระทบ
ผมก็เลยบอกเธอว่า ผมเห็นเธอเป็นดอกไม้ของนายก้อนหิน
ดอกไม้ที่ช่วยมาเติมความอ่อนหวานให้ก้อนหินที่ไม่ค่อยมีค่าก้อนนี้
สรุปแล้ววันนั้น เราก็ไปไหนไม่ได้ไกล
เพราะทันทีที่เห็นทุกนาเขียวขจีกว้างไกล
เธอก็ขอให้ผมหยุดรถ แล้วลงไปวิ่ง เหมือนไล่คว้าอะไรบางอย่าง เธอบอกว่า
เธอก ำลังวิ่งไล่จับความฝัน
วันนี้เขารับปริญญา ฉันอาสาเป็นตากล้อง ครอบครัวเขามีแม่มาแค่คนเดียว
แต่บ้านฉันมากันทั้งบ้านเลยแหละ พ่อแม่ และน้องชายฉันชอบเขามาก ก็ดีแล้วล่ะ
เพราะฉันอยากให้เขาได้รับความอบอุ่นในครอบครัวอย่างที่ฉันได้รับมาเสมอบ้าง
ฉันอยากให้เขามีความสุข เพราะความสุขของเขาก็เป็นความสุขของฉันเหมือนกัน
วันนี้เราสนุกสนานกันใหญ่ เหล่าเด็กอย่างพวกเราพาคนสูงวัย 3
คนไปปล่อยแก่กันในคาราโอเกะทั้งคืน ก็ไม่ได้จ่ายเองนี่ พ่อแม่มาทั้งที
แม่ของเขาเข้ากับแม่ของฉันดีทีเดียว
ผมได้ทุนจากมหาวิทยาลัยมาเรียนต่อที่ญี่ปุ่น เหงามากครับ
ทั้งที่ผมเคยชินกับความเหงามาตลอดชีวิต ก่อนที่จะพบเธอ
ผมหลีกเลี่ยงความเหงาโดยการตั้งใจเรียน เวลาว่างก็ทำงานพิเศษ
ผมเก็บเงินได้ก้อนโตทีเดียวครับ คิดว่าพอเรียนจบกลับไปจะไปขอเธอหมั้นไว้ก่อน
เธออีเมล์มาเล่าให้ฟังว่า เธอได้งานในบริษัทผลิตรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่ง กำลังสนุกกับงาน
อีกไม่กี่เดือนเขาก็จะกลับมาแล้ว เห็นบอกว่าเอาแต่เรียนกับทำงาน
จนไม่มีเวลาใช้เงิน แหมคงรวยใหญ่ ฉันเองก็กำลังสนุกกับงานที่ทำ
อาจเหงาบ้าง แต่อีกไม่กี่เดือนคงหายเหงา พ่อเพิ่งซื้อคอนโดไว้ให้
กำลังตกแต่ง พ่อกับแม่วางแผนไว้เสร็จสรรพ ว่าพอเขากลับมาจะยัดเยียดลูกสาวให้ทันที
แล้วให้ย้ายไปอยู่คอนโดใหม่ซะ
พ่อกับแม่หาว่าอพาร์ทเม้นที่ฉันอยู่มันไม่ค่อยปลอดภัยสำหรับการอยู่คนเดียวนัก
วันนี้ผมได้รับจดหมายจากที่บ้านของเธอ
เดาได้ว่าเธอคงยังไม่รู้เรื่องแน่ๆ
พ่อกับแม่ของเธอเขียนจดหมายมาบอกให้ผมกลับไปรับลูกสาวไปจากอกท่านด่วน
พร้อมกับซื้อคอนโดไว้เป็นค่าสินสอดให้แล้ว
ถ้าผมจะเรียกร้องอะไรอีกก็ขอให้บอก
ขอเพียงช่วยรับลูกสาวท่านไปเลี้ยงดูแทนก็พอ
พร้อมกับส่งเอกสารโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมาด้วย
ที่บ้านของเธอน่ารักอย่างนี้เสมอครับ ทั้งที่ผมเป็นคนอื่น
แต่ท่านทั้งคู่ก็เอ็นดูผมมากทีเดียว
กลายเป็นว่าเงินทองที่ผมสะสมเพื่อขอเธอแต่งงานก็อดใช้ครับ
เก็บไว้ให้ลูกแทนละกัน ตื่นเต้นครับ
อีกไม่กี่วันผมก็จะได้กลับไปหาเธอแล้ว ดอกไม้ของผม
พรุ่งนี้เขาจะกลับมาแล้วล่ะ เดี๋ยวตอนเย็น
ฉันจะออกไปหาซื้อข้าวของ และอาหารมาเตรียมไว้ทำให้เขากินพรุ่งนี้
เขาต้องแปลกใจมากแน่ๆ ที่ฉันทำอาหารเป็นแล้ว หุหุ ใช้เวลาฝึกฝนแรมปีเชียวนะ
โอ๊ย ตื่นเต้นจังเลย แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะ นายก้อนหินของฉัน
เราจะสมัครใจเป็นดอกไม้ที่อยู่ข้างก้อนหิน
เพราะดอกไม้สักแต่สวย หากแสนบอบบาง
เราจะมีก้อนหินคอยดูแล ปกป้อง….
นายไม่ต้องห่วงหรอก ไปเรียนแค่ 2 ปี เราอยู่คนเดียวได้สบายมาก
ถึง 2 ปีนี้ ดอกไม้จะไม่มีก้อนหินคอยดูแล ดอกไม้จะฮึดเอาความแข็งแกร่งทั้งหมดมาดูแลตัวเอง
เพราะเมื่อก้อนหินกลับมา ดอกไม้ก็ไม่ต้องมีความแข็งแกร่งก็ได้ ยังไงก็มีคนดูแลอยู่แล้ว
ผมไม่ได้ขอหมั้นเธอครับ ไม่มีงานแต่งงานเกิดขึ้นด้วย
คอนโดก็ถูกขาย ผมย้ายไปอยู่ที่บ้านของเธอ กับพ่อแม่
และน้องชายของเธอ แต่… ไม่มีเธอหรอกครับ
เธอถูกวัยรุ่นเมายากลุ่มหนึ่งขับรถชนในวันที่ไปซื้อข้าวของเพื่อทำอาหารให้ผมครับ
แค่เสี้ยวเวลาเท่านั้น ที่ผมจะกลับมาดูแลเธอได้แล้วแท้ๆ ยังสายเกินไป
ใครที่ยังมีคนสำคัญของหัวใจข้างกายอยู่
ดูแลเขาให้ดี ทุกวินาทีนะครับ เพราะเพียงพริบตาที่ไม่ได้ดูแล
ลืมตาอีกครั้ง อาจไม่มีเขาให้ดูแลแล้วก็ได้
credit: http://www.src.ku.ac.th/web/story/521-560/00537.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น คุยกันสนุกๆ