นั่งสมาธิ-มูลนิธิธรรมกาย


ขอแนะนำ เกิดมาครั้ง1ในชีวิต ลองดูครับ นั่งสมาธิวันละ 60 นาที ติดต่อกัน 7 วัน ทำได้รับรองคุณจะรู็สึกว่ามีพลังบางอย่างและสิ่งต่างๆหลายอย่างจะดีขึ้นครับผมลองดูนะ
ครั้ง 1ในชีวิตลองดูครับ
ต่อท้าย #1 15 ม.ค. 2554, 16:00:49
สำคัญ เทวดาและสิ่งศักสิทจะตามดูไปทุกที่
ต่อท้าย #2 15 ม.ค. 2554, 16:01:21
อำนวยไม่ ตกทุกยาก  มีสิ่งดีๆสมดั่งในปราถนาทุกประการ :)





นั่งสมาธิด้วยตนเอง





ณ จุดนี้ ผู้ที่ปรารถนาจะนั่งสมาธิด้วยตนเองที่บ้าน ก็สามารถปฎิบัติตามได้ ด้วยการน้อมนำใจเข้าสู่ภายใน ตามเส้นทางของเอกายนมรรค ซึ่งเป็นขั้นตอนง่ายๆ ดังต่อไปนี้

การนำใจเข้าสู่ภายในนี้ พระเดชพระคุณหลวงปู่ พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร) หรือ หลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ได้เมตตาแสดงอรรถาธิบายไว้ชัดเจน ทั้งหนทางการเดินของใจสู่ศูนย์กลาง และเทคนิคการนำใจเข้าสู่ภายใน

ก่อนอื่นจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า คนพุทธ คนไทย คนในซีกโลกตะวันออกของเรา มีความเชื่อดั้งเดิมแต่เก่าก่อนนานมาว่า "ใจ" หรือดวงจิตดั้งเดิมของคน นั้นมีสภาพกลมใส เป็นดวงใส คล้ายดวงแก้ว หรือที่เรียกว่ากันว่า "จินตมณ"

พระเดชพระคุณหลวงปู่ได้เมตตาชี้แจงถึงวิธีการนำใจเข้าสู่ภายใน เพื่อไปหยุดอยู่ ณ ศูนย์กลางกายไว้ดังนี้

ให้สมมตินึกน้อมใจ คือ “ดวงแก้วใส” ที่วิ่งว่ายอยู่ภายนอกให้มาหยุดอยู่ ณ ปากช่องจมูก หญิงข้างซ้าย ชายข้างขวา

แล้วค่อยนึกน้อมให้ใจ คือ ดวงแก้วใส นั้นให้ค่อยๆ เคลื่อนเข้าไปตามเส้นทางที่มีฐานอยู่ ๗ จุด ให้พักใจนิ่ง เป็นระยะๆ ไป จนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง คือ จุดศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด ดังภาพ


เทคนิคที่หลวงปู่แนะนำให้อยู่ตรงบริเวณหัวตา (จุดที่น้ำตาไหล) หญิงข้างซ้าย ชายข้างขวา เมื่อน้อมใจ คือ ดวงแก้วใส ให้มาอยู่ตรงหัวตาแล้วให้ทำตาเหลือกขึ้นไปข้างบน ประดุจจะกลับการเห็นจากภายนอกเข้าสู่ภายใน

แล้วจึงดำเนินใจเรื่อยไปจนกระทั่งถึงศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด ถือเป็นอันว่าเราได้นำใจไปวางไว้ ณ ศูนย์กลางกายเรียบร้อย จากนั้น ที่ควรกระทำต่อไป คือ นึกถึงดวงใจ คือ ดวงแก้วใส ว่าตั้งอยู่ ณ ศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด ให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

หรือ อีกเทคนิควิธีหนึ่ง ที่อาจง่ายกว่าในการจินตนาการ หรือ นึก คือ “เทคนิคเส้นเชือกสองเส้นตัดกัน” ดังนี้

หลับตาสบายๆ แล้วนึกขึงเส้นเชือกสองเส้น เส้นหนึ่งจากสะดือตัดตรงทะลุผ่านร่างกายไปยังกระดูกสันหลัง อีกเส้นหนึ่งจากสีข้าง ข้างขวา ทะลุไปยังข้างซ้าย จุดที่เส้นเชือกสองเส้นตัดกัน เรียกว่า ศูนย์กลางกายฐานที่หก

จากฐานที่หก ทำความรู้สึกยกใจให้สูงขึ้นในแนวตั้งฉาก ระยะความสูงเท่ากับนิ้วมือสองนิ้ว คือ นิ้วชี้กับนิ้วกลางวางทาบกัน

จุดที่ยกสูง หรือตั้งฉากขึ้นในระยะความสูงเท่ากับนิ้วมือสองนิ้วทาบกันดังภาพ นั่นแหละ คือ จุดศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ด ปากประตูของหนทางสายกลาง ตรงที่มนุษย์ทุกคนผู้หวังความสุขความเจริญในชีวิตต้องเรียนรู้ ต้องฝึก ที่จะนำความรู้สึก คือ ใจ ไปวางไว้ตรงนั้นให้ได้บ่อยที่สุดและอย่างเป็นธรรมชาติ
             
เมื่อรู้จักจุดศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ดแล้ว จดจำรอยที่ตั้งของใจไว้ได้แล้ว ในการปฏิบัติสมาธิครั้งต่อๆ ไปให้เพียงน้อมใจ หรือ ทำความรู้สึกเข้าไป ณ จุดสำคัญนี้ได้ทันที
             
ซึ่งเทคนิคตรงนี้ คือ การหายใจเข้าลึกๆ จุดลึกที่สุดของลมหายใจเข้า หรือ จุดปลายลม จะช่วยให้เรารำลึกถึง รู้สึกถึง จุดศูนย์กลางกายได้โดยง่าย ทำให้ทำความรู้สึกระลึกจุดสำคัญนี้ได้บ่อยๆ นึกได้ทั้งวัน อย่างเป็นธรรมชาติ แม้ไม่ได้หลับตาก็สามารถระลึกถึงจุดศูนย์กลางกายได้ ถือว่ามีโอกาสใกล้ชิดกับประตูสู่พระนิพพานได้ตลอดทั้งวัน แม้ในเวลาที่ไม่ได้หลับตาทำสมาธิก็ตาม
             
ณ จุดศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ดนั่นแหละ คือ ที่หยุด ที่วางใจ ดังที่พระเดชพระคุณหลวงปู่กล่าวไว้ว่า “หยุด เป็นตัวสำเร็จ” เพราะเป็นการนำใจไปหยุด คือ ไปวางนิ่งๆ อยู่ ณ ปากประตูสู่พระนิพพาน คือหนทางสายกลาง หรือ “มัชฌิมมรรค” หนทางแห่งความสุข มีจุดเริ่มต้นที่ศูนย์กลางกายของมนุษย์ทุกคน แล้วนำไปสู่จุดปลายทาง คือ อายตนนิพพาน สำคัญคือตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนถึงเป้าหมาย ผู้ที่นำใจไปหยุดไว้ ย่อมประสบแต่ความสุข ความสำเร็จ เส้นทางชีวิตหล่อเลี้ยงด้วยความสุขที่ทับทวีขึ้นเรื่อยๆ ตามระดับความละเอียดของใจที่พัฒนาแล้วเป็นอย่างดีด้วยการฝึกสมาธิ
             
และหนทางสายกลาง ที่เริ่มต้นจากศูนย์กลางกายฐานที่เจ็ดเท่านั้น คือ เส้นทางที่จะดำเนินใจไปสู่ทอดสู่พระนิพพาน


credit: http://www.dhammakaya.net/th/docs/%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น คุยกันสนุกๆ